|
Wednesday, February 28, 2007
Monday, February 26, 2007
วิชาที่เรียน
วิชาการผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์เบื้องต้นBasic Television Production
รหัสวิชา 3043405
คำอธิบายรายวิชา : กระบวนการผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง หน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายต่าง ๆ ฝึกผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์เบื้องต้น
รหัสวิชา 3043405
คำอธิบายรายวิชา : กระบวนการผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง หน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายต่าง ๆ ฝึกผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์เบื้องต้น
Saturday, February 10, 2007
ยินดีต้อนรับ
แนะนำ blog
blog เพื่อการศึกษา การผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์เบื้องต้น เพื่อนๆท่านใดอยากจะ post เข้ามาบียินดีค่ะ รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆเสมอ post เข้ามามากๆนะคะจะได้เก็บไว้อ่าน
Friday, February 9, 2007
วิจารณ์หนัง
แนว Fiction
1. เรื่อง "3 MINUTES" (ความยาว 7 นาที )
ผู้กำกับฯ นพดล สุนต์ตา
หนังเรื่องนี้กล่าวถึงหนุ่มคนหนึ่งมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ 3 นาที ผู้มีอิทธิพลในวงการมวยนำสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไปหาประโยชน์ในการพนันมวย การมองเห็นของชายหนุ่มเกิดผิดพลาดขึ้นทายผลการชกผิด ผู้มีอิทธิพลโกรธจะฆ่าชายหนุ่ม ตอนจบทิ้งปริศนาไว้ว่าจะป้องกันตัวเองให้รอดตายได้หรือไม่บทวิจารณ์ เขียนบทได้ดี แปลก ตื่นเต้น น่าชม ใช้เวลาน้อยมาก บทสนทนาก็น้อยแต่สามารถสรุปเรื่องราวดีดูแล้วเข้าใจง่าย เลือกสถานที่ถ่ายทำได้ดีเช่น ฉากสนามมวยศึกอัศวินดำ สร้างสรรค์ดี บางฉากมุมกล้องยังไม่ดี ส่วนนักแสดงๆได้ดีทุกคน
2. เรื่อง "LOOK AT ME" (ความยาว 10 นาที )
ผู้กำกับฯ ชวลิต คณาวุฒิกานต์
นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวทั่วๆไปครอบครัวหนึ่ง ที่ยากจนหาเช้ากินค่ำ หญิงชราคนหนึ่งทำงานคนเดียวหาเลี้ยงทั้งครอบครัวโดยที่ไม่มีใครสนใจช่วยเหลือเลยบางวันถึงขนาดไม่มีอะไรจะกิน จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์พลิกผันทั้งครอบครัวหันมาช่วยเหลือกันทำมาหากิน ชีวิตครอบครัวก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้นบทวิจารณ์ เป็นการดำเนินเรื่องไปพร้อมกับเสียงบรรยาย เลือกสถานที่ถ่ายทำได้ดี สะท้อนภาพชีวิตคนจนที่ต้องช่วยเหลือกันทำมาหากินถึงจะอยู่รอด การแสดงถ่ายทอดความรู้สึกได้ดี ได้อารมณ์ มุมกล้องดี การเคลื่อนไหวกล้องดีภาพมีความต่อเนื่อง เสียงประกอบดี
3. เรื่อง "บ้านผีปอบ" (ความยาว 13 นาที )
ผู้กำกับฯ สุทัศน์ ภาวิไลรัตน์
เป็นหนังผีตลกแบบไทยๆแม่ซึ่งเป็นปอบ บอกให้ลูกกลับมาบ้านเพื่อรับมรดกสืบทายาทเป็นผีปอบต่อไปบทวิจารณ์ ฉากแรกใส่เสียง จัดแสงได้น่ากลัวน่าตื่นเต้นดี นึกว่าจะน่ากลัวทั้งเรื่อง แต่ฉากต่อๆมาเป็นแนววิ่งหนีผีทั่วไป ตัวแสดงบางตัวมีมุขตลกดี เนื้อหาทั้งเรื่องเข้าใจง่ายไม่สับสน ตอนจบช่วงมาจับมือแล้วขอเบอร์โทรศัพท์พยายามจะหักมุมให้เป็นปริศนา แต่ทำได้ยังไม่ดีพอ มุมกล้องดี ขนาดภาพดี ใส่เสียงดี
4. เรื่อง "กอด" (ความยาว 14 นาที )
ผู้กำกับฯ คนิพงศ์ สุทธิพันธ์
เรื่องราวของหนุ่มบ้านนา ที่เข้ากรุงมาเป็น ลูกกระจ๊อกหรือพวกตัว กิ๊กกิ้ว ในการ์ตูนจำพวกยอดมนุษย์ ที่มักโผล่ออกมาให้ยอดมนุษย์ฆ่าตายอย่างง่ายดาย ที่ต้องต่อสู้กับความยุติธรรมอย่างไม่รู้ตัวบทวิจารณ์ หนังเรื่องนี้เลือกนำเสนอชีวิตของคนชนชั้นล่างในรูปแบบที่ขบขัน สิ่งที่น่าคิดก็คือตอนท้ายที่พวกยอดมนุษย์รุมอัดหนุ่มกระจ๊อกเสียหมอบ แสดงถึงสภาพสังคมของบ้านเราในแง่มุมหนึ่ง ฉากที่ชอบมาก ของหนังเรื่องนี้คือ ตอนที่ตัว กิ๊กกิ้ว วิ่งโลดแล่นในทุ่งนาสีเขียว ซึ่ง ผกก. ก็ให้สัมภาษณ์ว่าแรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้ก็เกิดจากการที่เขาหลับตาแล้วเห็น ตัวกิ๊กกิ้ววิ่งในทุ่งนา นั่นแหละ !
5. เรื่อง "BE VERY QUIET" (ความยาว 25 นาที )
ผู้กำกับฯ Mona Nahm
เนื้อเรื่องเสนอการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน ที่ต้องหาเงินเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว ด้วยการเอาตัวเข้าแลก เพื่อความอยู่รอด แต่แล้วแม่ก็ต้องจากไป เด็กหนุ่มซึ่งฝั่งใจกับการตายของแม่อยู่ตลอดได้มาเจอกับคนที่ตนเองคิดว่าเป็นคนฆ่าแม่จึงได้แก้แค้นโดยการทำร้ายลูกสาวของคนนั้นบทวิจารณ์ เรื่องราวไม่ต่อเนื่องแต่มุมกล้อง และภาพสวยดี
6. เรื่อง "KISS THE MACHING" (ความยาว 25 นาที )
ผู้กำกับฯ Prinn Vadhanavira, R - Na Rattanapan
เรื่องราวความรักของหญิงสาวคนหนึ่งกับหุ่นยนต์ หญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาสร้างหุ่นยนต์ ขณะนอนยังฝันถึง เขาทุ่มเททั้งกายและใจให้กับหุ่นยนต์ถึงขนาดใส่หัวใจหุ่นยนต์ไว้ในร่างตัวเองด้วยบทวิจารณ์ ผู้กำกับตั้งใจใส่สีสันให้เป็นเหมือนการมองของหุ่น เรื่องส่วนใหญ่จะไม่ใช้บทสนทนา สื่อด้วยภาพและอารมณ์ซึ่งกันและกัน จนเกิดความรักความเข้าใจอยากจะลองเป็นหุ่นยนต์ดูบ้าง ภาพจะเหมือนความฝันทั้งเรื่องเป็นหนังแนวต่างประเทศ บ้านเราจะไม่ค่อยสร้างหนังแบบนี้ ความคิดสร้างสรรค์ดี ภาพสวย มุมกล้องดี ขนาดภาพดีผลงานนักศึกษา
ผลงานนักศึกษา
7. เรื่อง "หลวงตา" (ความยาว 8 นาที ) ผลงานนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต
ผู้กำกับฯ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
เรื่องราวความรู้สึกของเด็กชายที่พ่อแม่นำมาฝากกับหลวงตาเป็นเด็กวัดออกเดินตามหลวงตาไปบิณฑบาตทุกเช้า วันหนึ่งได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพ่อและหลวงตาที่หลอกลวงชาวบ้านบทวิจารณ์ ตัวแสดงๆได้ดีมากโดยเฉพาะเด็กถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี สะท้อนถึงความรู้สึกสับสนและผิดหวังกับการกระทำของพ่อ , หลวงตา เขียนบทได้ดีได้แง่คิดอะไรหลายอย่าง ใส่เสียงประกอบได้สมจริงสมจัง เช่น เสียงพระสวด เสียงระฆังในวัด เสียงไก่ขัน เสียงฉากตื่นเต้น มุมภาพสวย ขนาดภาพเหมาะสม นำเสนอเรื่องดี มีจุดหักมุมของเรื่อง ลงทุนดีมีชาวบ้านเข้ามาประกอบฉากด้วย
8. เรื่อง "มนต์รักซักรีด" (ความยาว 15 นาที ) ผลงานนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
ผู้กำกับฯ เมษ ธราธร
ลูกสาวร้านซักอบรีดกับหนุ่มหล่อประจำหมู่บ้าน และเขาก็ไม่เหนียมอายเอาซะเลย ทุกๆ วันเขาจะสอดจดหมายรักไว้ในเสื้อที่นำไปส่งร้านซัก เธอก็คอยเปิดอ่านโดยต้องระวังไม่ให้แม่เห็น แล้วความรักของเขาและเธอก็บังเกิดขึ้นพร้อมๆ กับหนังเรื่อง แฟนฉัน!บทวิจารณ์ เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย สื่อถึงความรักที่ต้องพยายาม เพราะมีแม่คอยขัดขวาง ขนาดภาพและมุมกล้องไม่ดี ตอนจบแนวจะคล้ายเรื่องแฟนฉัน
แนว Documentary
9. เรื่อง "กาลครั้งหนึ่ง" (ความยาว 13 นาที )
ผู้กำกับฯ ภาณุ อารี
หนังแนวDocumentaryที่แบ่งปันความทรงจำระหว่างเจ้าของภาพและเจ้าของเสียง ที่เล่าเรื่องสวนสนุกในวัยเยาว์ของคนหลายคนบทวิจารณ์ หนังจะเป็นแนวสารคดีลักษณะบรรยายระลึกถึงความหลังสลับ เป็นหนังที่งงๆดูยากหน่อย เรื่องราวไม่ค่อยต่อเนื่อง
10. เรื่อง "เส้นขนาน" (ความยาว 13 นาที )
ผู้กำกับฯ ภาณุ อารี
เ รื่องราวชีวิตจริงของแม่บ้านบริษัทแห่งหนึ่ง ทำออกมาในแนวสารคดี พูดถึงคนตัวเล็กๆที่ต้องเผชิญปัญหาต่างๆ แนวสร้างความสัมพันธ์ดีๆต่อกัน บอกเล่าเรื่องราวความทรงจำของบุคคลโดยใช้ฟุตเทจและภาพในชีวิตประจำวันผสมเข้ากับเสียงสัมภาษณ์บทวิจารณ์ นำเสนอการบรรยายโดยใช้อารมณ์นักแสดง และผู้สัมภาษณ์ บรรยายถึงความน้อยใจตัวเอง จนให้นึกสงสาร มุมกล้องดี ภาพดีไม่กระโดด ขนาดภาพดี แสงดี
11. เรื่อง "พรหมลิขิต" (ความยาว 17 นาที )
ผู้กำกับฯ ภาณุ อารี
เนื้อหาเป็นการสร้างอนาคตของคน 2 คน โดยมีการวางแผนการดำเนินชีวิต หรือพบรักกันโดยพรหมลิขิตหรือความบังเอิญบทวิจารณ์ การนำเสนอด้วยอารมณ์ของนักแสดง และบรรยายด้วยเสียง แสง สีมีความสวยงาม มุมกล้องหลากหลาย ขนาดภาพดี การเคลื่อนไหวกล้องดี
12. เรื่อง "BEHIND WALL" (ความยาว 30 นาที )
ผู้กำกับฯ อภิวัฒน์ แสงพัทธสีมา
เรื่องราวชาวชุมชนป้อมมหากาฬ รวมตัวกันต่อต้านไม่ให้ภาครัฐ (กทม.) มารื้อบ้านของพวกเขาไป ชาวชุมชนนี้และชุมชนอื่น ๆ รวมทั้งนักศึกษา นักวิชาการด้านต่าง ๆ ช่วยกันเรียกร้องให้ทางภาครัฐหันมามองความเป็นจริงของสภาพการณ์ปัจจุบันบทวิจารณ์ หนังแนวนี้จะออกมาไม่ค่อยสวยงาม ดูน่าเบื่อแต่จะแฝงไว้ด้วยแง่คิด สะท้อนสังคมปัจจุบัน ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น การใช้ชีวิตของคนจน เนื้อหาเข้าใจง่าย สร้างสรรค์ มีสาระแต่ไม่ค่อยสนุก
1. เรื่อง "3 MINUTES" (ความยาว 7 นาที )
ผู้กำกับฯ นพดล สุนต์ตา
หนังเรื่องนี้กล่าวถึงหนุ่มคนหนึ่งมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ 3 นาที ผู้มีอิทธิพลในวงการมวยนำสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไปหาประโยชน์ในการพนันมวย การมองเห็นของชายหนุ่มเกิดผิดพลาดขึ้นทายผลการชกผิด ผู้มีอิทธิพลโกรธจะฆ่าชายหนุ่ม ตอนจบทิ้งปริศนาไว้ว่าจะป้องกันตัวเองให้รอดตายได้หรือไม่บทวิจารณ์ เขียนบทได้ดี แปลก ตื่นเต้น น่าชม ใช้เวลาน้อยมาก บทสนทนาก็น้อยแต่สามารถสรุปเรื่องราวดีดูแล้วเข้าใจง่าย เลือกสถานที่ถ่ายทำได้ดีเช่น ฉากสนามมวยศึกอัศวินดำ สร้างสรรค์ดี บางฉากมุมกล้องยังไม่ดี ส่วนนักแสดงๆได้ดีทุกคน
2. เรื่อง "LOOK AT ME" (ความยาว 10 นาที )
ผู้กำกับฯ ชวลิต คณาวุฒิกานต์
นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวทั่วๆไปครอบครัวหนึ่ง ที่ยากจนหาเช้ากินค่ำ หญิงชราคนหนึ่งทำงานคนเดียวหาเลี้ยงทั้งครอบครัวโดยที่ไม่มีใครสนใจช่วยเหลือเลยบางวันถึงขนาดไม่มีอะไรจะกิน จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์พลิกผันทั้งครอบครัวหันมาช่วยเหลือกันทำมาหากิน ชีวิตครอบครัวก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้นบทวิจารณ์ เป็นการดำเนินเรื่องไปพร้อมกับเสียงบรรยาย เลือกสถานที่ถ่ายทำได้ดี สะท้อนภาพชีวิตคนจนที่ต้องช่วยเหลือกันทำมาหากินถึงจะอยู่รอด การแสดงถ่ายทอดความรู้สึกได้ดี ได้อารมณ์ มุมกล้องดี การเคลื่อนไหวกล้องดีภาพมีความต่อเนื่อง เสียงประกอบดี
3. เรื่อง "บ้านผีปอบ" (ความยาว 13 นาที )
ผู้กำกับฯ สุทัศน์ ภาวิไลรัตน์
เป็นหนังผีตลกแบบไทยๆแม่ซึ่งเป็นปอบ บอกให้ลูกกลับมาบ้านเพื่อรับมรดกสืบทายาทเป็นผีปอบต่อไปบทวิจารณ์ ฉากแรกใส่เสียง จัดแสงได้น่ากลัวน่าตื่นเต้นดี นึกว่าจะน่ากลัวทั้งเรื่อง แต่ฉากต่อๆมาเป็นแนววิ่งหนีผีทั่วไป ตัวแสดงบางตัวมีมุขตลกดี เนื้อหาทั้งเรื่องเข้าใจง่ายไม่สับสน ตอนจบช่วงมาจับมือแล้วขอเบอร์โทรศัพท์พยายามจะหักมุมให้เป็นปริศนา แต่ทำได้ยังไม่ดีพอ มุมกล้องดี ขนาดภาพดี ใส่เสียงดี
4. เรื่อง "กอด" (ความยาว 14 นาที )
ผู้กำกับฯ คนิพงศ์ สุทธิพันธ์
เรื่องราวของหนุ่มบ้านนา ที่เข้ากรุงมาเป็น ลูกกระจ๊อกหรือพวกตัว กิ๊กกิ้ว ในการ์ตูนจำพวกยอดมนุษย์ ที่มักโผล่ออกมาให้ยอดมนุษย์ฆ่าตายอย่างง่ายดาย ที่ต้องต่อสู้กับความยุติธรรมอย่างไม่รู้ตัวบทวิจารณ์ หนังเรื่องนี้เลือกนำเสนอชีวิตของคนชนชั้นล่างในรูปแบบที่ขบขัน สิ่งที่น่าคิดก็คือตอนท้ายที่พวกยอดมนุษย์รุมอัดหนุ่มกระจ๊อกเสียหมอบ แสดงถึงสภาพสังคมของบ้านเราในแง่มุมหนึ่ง ฉากที่ชอบมาก ของหนังเรื่องนี้คือ ตอนที่ตัว กิ๊กกิ้ว วิ่งโลดแล่นในทุ่งนาสีเขียว ซึ่ง ผกก. ก็ให้สัมภาษณ์ว่าแรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้ก็เกิดจากการที่เขาหลับตาแล้วเห็น ตัวกิ๊กกิ้ววิ่งในทุ่งนา นั่นแหละ !
5. เรื่อง "BE VERY QUIET" (ความยาว 25 นาที )
ผู้กำกับฯ Mona Nahm
เนื้อเรื่องเสนอการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน ที่ต้องหาเงินเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว ด้วยการเอาตัวเข้าแลก เพื่อความอยู่รอด แต่แล้วแม่ก็ต้องจากไป เด็กหนุ่มซึ่งฝั่งใจกับการตายของแม่อยู่ตลอดได้มาเจอกับคนที่ตนเองคิดว่าเป็นคนฆ่าแม่จึงได้แก้แค้นโดยการทำร้ายลูกสาวของคนนั้นบทวิจารณ์ เรื่องราวไม่ต่อเนื่องแต่มุมกล้อง และภาพสวยดี
6. เรื่อง "KISS THE MACHING" (ความยาว 25 นาที )
ผู้กำกับฯ Prinn Vadhanavira, R - Na Rattanapan
เรื่องราวความรักของหญิงสาวคนหนึ่งกับหุ่นยนต์ หญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาสร้างหุ่นยนต์ ขณะนอนยังฝันถึง เขาทุ่มเททั้งกายและใจให้กับหุ่นยนต์ถึงขนาดใส่หัวใจหุ่นยนต์ไว้ในร่างตัวเองด้วยบทวิจารณ์ ผู้กำกับตั้งใจใส่สีสันให้เป็นเหมือนการมองของหุ่น เรื่องส่วนใหญ่จะไม่ใช้บทสนทนา สื่อด้วยภาพและอารมณ์ซึ่งกันและกัน จนเกิดความรักความเข้าใจอยากจะลองเป็นหุ่นยนต์ดูบ้าง ภาพจะเหมือนความฝันทั้งเรื่องเป็นหนังแนวต่างประเทศ บ้านเราจะไม่ค่อยสร้างหนังแบบนี้ ความคิดสร้างสรรค์ดี ภาพสวย มุมกล้องดี ขนาดภาพดีผลงานนักศึกษา
ผลงานนักศึกษา
7. เรื่อง "หลวงตา" (ความยาว 8 นาที ) ผลงานนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต
ผู้กำกับฯ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
เรื่องราวความรู้สึกของเด็กชายที่พ่อแม่นำมาฝากกับหลวงตาเป็นเด็กวัดออกเดินตามหลวงตาไปบิณฑบาตทุกเช้า วันหนึ่งได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพ่อและหลวงตาที่หลอกลวงชาวบ้านบทวิจารณ์ ตัวแสดงๆได้ดีมากโดยเฉพาะเด็กถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี สะท้อนถึงความรู้สึกสับสนและผิดหวังกับการกระทำของพ่อ , หลวงตา เขียนบทได้ดีได้แง่คิดอะไรหลายอย่าง ใส่เสียงประกอบได้สมจริงสมจัง เช่น เสียงพระสวด เสียงระฆังในวัด เสียงไก่ขัน เสียงฉากตื่นเต้น มุมภาพสวย ขนาดภาพเหมาะสม นำเสนอเรื่องดี มีจุดหักมุมของเรื่อง ลงทุนดีมีชาวบ้านเข้ามาประกอบฉากด้วย
8. เรื่อง "มนต์รักซักรีด" (ความยาว 15 นาที ) ผลงานนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
ผู้กำกับฯ เมษ ธราธร
ลูกสาวร้านซักอบรีดกับหนุ่มหล่อประจำหมู่บ้าน และเขาก็ไม่เหนียมอายเอาซะเลย ทุกๆ วันเขาจะสอดจดหมายรักไว้ในเสื้อที่นำไปส่งร้านซัก เธอก็คอยเปิดอ่านโดยต้องระวังไม่ให้แม่เห็น แล้วความรักของเขาและเธอก็บังเกิดขึ้นพร้อมๆ กับหนังเรื่อง แฟนฉัน!บทวิจารณ์ เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย สื่อถึงความรักที่ต้องพยายาม เพราะมีแม่คอยขัดขวาง ขนาดภาพและมุมกล้องไม่ดี ตอนจบแนวจะคล้ายเรื่องแฟนฉัน
แนว Documentary
9. เรื่อง "กาลครั้งหนึ่ง" (ความยาว 13 นาที )
ผู้กำกับฯ ภาณุ อารี
หนังแนวDocumentaryที่แบ่งปันความทรงจำระหว่างเจ้าของภาพและเจ้าของเสียง ที่เล่าเรื่องสวนสนุกในวัยเยาว์ของคนหลายคนบทวิจารณ์ หนังจะเป็นแนวสารคดีลักษณะบรรยายระลึกถึงความหลังสลับ เป็นหนังที่งงๆดูยากหน่อย เรื่องราวไม่ค่อยต่อเนื่อง
10. เรื่อง "เส้นขนาน" (ความยาว 13 นาที )
ผู้กำกับฯ ภาณุ อารี
เ รื่องราวชีวิตจริงของแม่บ้านบริษัทแห่งหนึ่ง ทำออกมาในแนวสารคดี พูดถึงคนตัวเล็กๆที่ต้องเผชิญปัญหาต่างๆ แนวสร้างความสัมพันธ์ดีๆต่อกัน บอกเล่าเรื่องราวความทรงจำของบุคคลโดยใช้ฟุตเทจและภาพในชีวิตประจำวันผสมเข้ากับเสียงสัมภาษณ์บทวิจารณ์ นำเสนอการบรรยายโดยใช้อารมณ์นักแสดง และผู้สัมภาษณ์ บรรยายถึงความน้อยใจตัวเอง จนให้นึกสงสาร มุมกล้องดี ภาพดีไม่กระโดด ขนาดภาพดี แสงดี
11. เรื่อง "พรหมลิขิต" (ความยาว 17 นาที )
ผู้กำกับฯ ภาณุ อารี
เนื้อหาเป็นการสร้างอนาคตของคน 2 คน โดยมีการวางแผนการดำเนินชีวิต หรือพบรักกันโดยพรหมลิขิตหรือความบังเอิญบทวิจารณ์ การนำเสนอด้วยอารมณ์ของนักแสดง และบรรยายด้วยเสียง แสง สีมีความสวยงาม มุมกล้องหลากหลาย ขนาดภาพดี การเคลื่อนไหวกล้องดี
12. เรื่อง "BEHIND WALL" (ความยาว 30 นาที )
ผู้กำกับฯ อภิวัฒน์ แสงพัทธสีมา
เรื่องราวชาวชุมชนป้อมมหากาฬ รวมตัวกันต่อต้านไม่ให้ภาครัฐ (กทม.) มารื้อบ้านของพวกเขาไป ชาวชุมชนนี้และชุมชนอื่น ๆ รวมทั้งนักศึกษา นักวิชาการด้านต่าง ๆ ช่วยกันเรียกร้องให้ทางภาครัฐหันมามองความเป็นจริงของสภาพการณ์ปัจจุบันบทวิจารณ์ หนังแนวนี้จะออกมาไม่ค่อยสวยงาม ดูน่าเบื่อแต่จะแฝงไว้ด้วยแง่คิด สะท้อนสังคมปัจจุบัน ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น การใช้ชีวิตของคนจน เนื้อหาเข้าใจง่าย สร้างสรรค์ มีสาระแต่ไม่ค่อยสนุก
Subscribe to:
Posts (Atom)
